วันเสาร์ที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

กระตุ้นเปิดด่านถาวรสิงขร-มะริด ขยายตลาดขนส่งไทย-เมียนมาร์

แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 11 (พ.ศ.2555-2559) ได้มีการวางยุทธศาสตร์การสร้างความเชื่อมโยงกับประเทศในภูมิภาคเพื่อความ มั่นคงทางเศรษฐกิจและสังคม ซึ่งมีข้อกำหนดในการวางแนวทางการพัฒนาเพื่อเชื่อมโยงการพัฒนาเศรษฐกิจตามแนว พื้นที่ชายแดน เนื่องจากเศรษฐกิจตามด่านชายแดนมีการเติบโตขึ้นทุกปี โดยเฉพาะด่านชายแดนไทย-เมียนมาร์

นายประจวบ สุภินี ผู้อำนวยการศูนย์พัฒนาธุรกิจสู่สากล กระทรวงพาณิชย์ ยอมรับว่า การติดต่อค้าขายระหว่างไทยกับเมียนมาร์มีมาอย่างยาวนาน ซึ่งด่านชายแดนถือเป็นจุดค้าขายที่สำคัญที่สุด เนื่องจากชาวเมียนมาร์ไม่สามารถผลิตสินค้าเองได้ การค้าขายระหว่างด่านชายแดนจึงมีมากกว่า 80% และมีมูลค่าการค้าขายกว่า 4,000 ล้านเหรียญสหรัฐต่อปี หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 120,000 ล้านบาทต่อปี

ล่าสุด วิทยาลัยโลจิสติกส์และโซ่อุปทาน มหาวิทยาลัยนเรศวร ได้จัดสัมมนาโครงการศึกษาอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพตามชายแดนในเส้นทางมะริด สาธารณรัฐสหภาพเมียนมาร์-ด่านสิงขร จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

ดร.บุญทรัพย์ พานิชการ ผู้อำนวยการวิทยาลัยโลจิสติกส์และโซ่อุปทาน มหาวิทยาลัยนเรศวร กล่าวว่า จากการศึกษาความเหมาะสมและความเป็นไปได้ในภาคอุตสาหกรรมเส้นทางด่าน สิงขร-มะริด พบว่า เส้นทางนี้อาจจะเป็นเส้นทางที่มีศักยภาพในอนาคต เนื่องจากด่านสิงขรเป็นด่าน ชายแดนไทยที่อยู่ใกล้เขตตะนาวศรี ซึ่งเป็นเขตทางตะวันตกเฉียงใต้ของเมียนมาร์ และในเขตตะนาวศรียังมีทรัพยากร ธรรมชาติที่ยังอุดมสมบูรณ์

เส้นทางสิงขร-มะริด ยังไม่ดีเท่าที่ควร บางช่วงยังเป็นดินลูกรัง แต่ในอนาคตเส้นทางนี้จะมีศักยภาพมากที่สุดเส้นทางหนึ่ง เพราะมีระยะทางเพียง 180 กม. ซึ่งถือว่าสั้นกว่าด่านอื่นๆ ดังนั้น ต้นทุนด้านโลจิสติกส์จะลดลงอย่างแน่นอน

ด้านนายสมศักดิ์ หอยทอง กำนันตำบลคลองวาฬ อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า การเปิดด่านสิงขร-มะริดให้เป็นด่านถาวร ประเทศไทยจะได้ประโยชน์อย่างมหาศาล แต่ถนนจากด่านสิงขรไปมะริดยังไม่ดีและมีเพียงเลนเดียว ตนจึงร่วมมือกับภาคเอกชนต่างๆ เข้าไปเจรจากับทางเมียนมาร์เพื่อก่อสร้างถนนให้ โดยทาง เมียนมาร์ก็ยินยอมและมอบที่ดินสองข้างทางให้จากถนนลากยาวไปประมาณ 21 กม. เพื่อเป็นการตอบแทน โดยจะใช้ทุนก่อสร้างประมาณ 1,200 ล้านบาท และคาดว่าอีก 2 ปีโครงการจะแล้วเสร็จ ลดเวลาการขนส่งจาก 9 ชม. เหลือเพียง 2 ชม.

“ในยุครัฐบาลยิ่งลักษณ์ เคยเสนองบประมาณลงมาจำนวน 1,200 ล้านบาท เพื่อนำมาพัฒนาด่านสิงขร-มะริด และให้การสนับสนุนประเทศเมียนมาร์ในการสร้างถนน แต่ก็มีปัญหาต่างๆ ให้ต้องชะลอไป แต่วันเวลาไม่เคยหยุดนิ่ง จึงมีการรวมกลุ่มกับภาคเอกชนไปเจรจากับทาง เมียนมาร์ เพื่อก่อสร้างถนนให้ ซึ่งทาง เมียนมาร์ก็ยอมให้เราเข้าไปดำเนินการก่อสร้างถนนให้ และยังใจดีมอบที่ดินสองข้างทางระหว่างเส้นทางไปมะริดให้ด้วย อย่างไรก็ตาม ในอนาตอันใกล้นี้ด่านสิงขร-มะริดจะสามารถเปิดเป็นด่านถาวรได้ เพราะรัฐบาลยุคท่านประยุทธ์ แสดงความจำนงลงมาชัดเจนว่าอยากให้เปิดด่านค้าขายกับเพื่อนบ้าน”

ขณะที่นายสมมิตร ศิลป์ประเสริฐ รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า ความคืบหน้าในการเปิดด่านสิงขรให้เป็นด่านถาวรมีความคืบหน้าไปมาก โดยคาดว่าในปี 2558 นี้จะสามารถเปิดได้ เพื่อกระต้นตลาดการขนส่งไทย-เมียนมาร์ และเส้นทางโลจิสติกส์สินค้าอุปโภคบริโภค จากเมียนมาร์มาแปรรูปที่ไทย ขณะเดียวกันจะเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวระหว่างประจวบฯ และมะริดที่มีทะเลที่สวยงามระหว่าง 2 เมืองด้วย

ปฏิเสธไม่ได้ว่า ด่านชายแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้านมีอยู่เป็นจำนวนมาก ถ้าสามารถเปิดเป็นด่านถาวรได้ทุกด่าน เชื่อว่าประเทศไทยได้ประโยชน์รอบด้านอย่างแน่นอน


 ผู้เขียนเองเป็นคนอำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยกำเนิด อดที่จะภาคภูมิใจลึกๆไม่ได้ว่าหนทางการเปิดด่านถาวรระหว่างไทยกับพม่าเริ่มมองเห็นแนวทางชัดเจนมากยิ่งขี้น แน่นอนที่สุดหากด่านนี้เปิดได้จริง การขนส่ง การท่องเที่ยว การค้าขายระหว่างสองประเทศย่อมมีการพัฒนาไปแบบก้าวกระโดดแน่ๆ ต้องขอขอบคุณเวบไซต์ thaigpstrack.com ผู้นำด้านอุปกรณ์จีพีเอสติดตามรถยนต์ มาตรฐานโรงงานผู้ผลิด รับประกันของแท้100% เต็ม